คนราชทัณฑ์ กับ งานราชทัณฑ์
ที่ผ่านมา
รัฐมนตรี และอธิบดี ได้แถลงข่าวเรื่องการก้าวข้าม ยาเสพติด และโทรศัพท์มือถือ
ในเรือนจำ ถือเป็นการสอบผ่าน ป.1 ซึ่งท่านผู้บริหาร (อรท) ก็ได้เปรียบเปรย ว่าเรากำหนด
หลักสูตรในการทำงาน คือตั้งเป้าในการเดินงานราชทัณฑ์ ไว้ 3 ชั้น ป.1 ป.2 ป.3 ซึ่งในปี 2558
ที่ผ่านมาเขาถือว่าได้สอบผ่านการดำเนินงานชั้น ป1. คือ การดำเนินงาน 5
ก้าวย่าง คือ 1. การปราบปรามยาเสพติด
โทรศัพท์ มือถือ 2.การจัดระเบียบ 3.การฝึกวินัยแบบทหาร 4.การพัฒนาจิตใจ สัคคสาสมาธิ
5.การสร้างการยอมรับจากสังคม (โชว์พาว) โดยทางผู้บริหารได้มองว่า ก้าวย่าง ที่ 1-4
เราผ่านมาแบบสวยงาม และยั่งยืน
ตอนนี้ให้ระดมการนำเสนอก้าวย่างที่ 5 แต่ละเรือนจำก็ไปเตรียมแผนเตรียมงานดำเนินกันไป
นี่คือ ป.1 ขั้น ป2. ท่านว่า คือ ทำโฟร์ชาร์ตเรือนจำ และผู้ต้องขัง
รวมถึงการแก้ไขระเบียบ กฎหมายต่างๆ ซึ่ง เบื้องต้นก็ว่ากันแล้ว เรือง เรือนจำ
กระดูกสันหลังเรือนจำ 4 กลุ่ม เรือนจำ เฉพาะด้าน 7 ที่ เรือนจำความมั่นคงสูงสุดแบบพิเศษ
5 แห่ง และเรือนจำ โครงสร้างเบา สำหรับผู้ต้องขังเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย 17 แห่ง
18 ที่ ชั้น ป.3 คือ การทำระบบงานเอกสารเป็น หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ทั้งระบบ.. ซึ่งก็ยากและซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ... ผู้คุมเราทุกระดับชั้นต้องรู้เรื่องพวกนี้นะครับ...อย่าตกเทรน...
งานมันกำลังอยู่ระหว่างการปฏิรูปและการเปลี่ยนแปลงหลายด้านพร้อมกัน...รู้เขารู้เรารบร้อยชนะร้อย
รบพันชนะพัน ... ก็ว่ากันไป อันนี้ หากใครไม่ได้ทำง่านตรงๆ ก็ให้หาอ่านไว้เป็นอาหารสมองก็แล้วกัน
... มาว่ากันเรื่อง การปราบ ยาเสพติด โทรศัพท์ มือถือ ในเรือนจำ ที่ผ่านมา ...
อันนี้เอาประสบการณ์มาเล่า เผื่อใครได้เจอ หรือกำลังเจอกับเหตุการณ์นี้อยู่ ...
ก็ลองเอาไปมองๆ เวลาทำงานดู... อันแรกเลย ขอย้ำนะ ประสบการณ์ล้วนๆ ...
เรื่องแรกเลย การมองสถานการณ์ยาเสพติดของเรือนจำที่เราอยู่...ว่าเรือนจำเราสุ่มเสี่ยงต่อการมีสถานการณ์ยาเสพติดและโทรศัพท์มือถือหรือไม่
..
1.ผู้ต้องขังในเรือนจำ
ถูกแบ่งเป็นกลุ่ม โดยกลุ่มมีอิทธิพลจะเป็นกลุ่มของเจ้าหน้าที่ที่เป็นใหญ่ในนั้น
และใช้ผู้ต้องขังกลุ่มนี้ หาข่าว จัดการผู้ต้องขังด้วยกัน รวมถึงเจ้าหน้าที่ ด้วยนะจ้ะ
2.จะมีการปล่อยข่าวเสมอว่าเจ้าหน้าที่คนนั้น
คนนี้ มีพฤติกรรม ให้คอยจับตาดูเจ้าหน้าที่ คนนั้น คนนี้ บางครั้งก็เต้าข่าวตรงๆ
บางครั้งก็จัดฉากให้ผู้ต้องขังเขียนเป็นกระดาษขึ้นมาเพื่อใส่ร้ายเป็นการเฉพาะ
ผบ.เชื่อด้วยนะ เด้งกันระนาว
3.
มีกลุ่มเจ้าหน้าที่ ที่ทำตัวเป็นมือปราบ ระดับพระกาฬ แต่ปราบเท่าไหร่ แม่ง ไม่เคยหมดจากเรือนจำซะที
ทั้งยาทั้งโทรศัพท์ มีข่าว ตะล้อดด ลักษณะนี้ตามประสบการณ์ พวกมือปราบนี้แหละ
ตัวดีเลย ... สับหลีกเปลี่ยนเครื่องศาลเตี้ยรีดเงินเลี้ยงโจร ครบวงจร...
4.มีการกีดกันงาน
ระหว่างเจ้าหน้าที่ด้วยกัน เป็นกลุ่มๆ ก็แบ่งย่อย ตามลักษณะการหากิน เช่น
กลุ่มฝ่ายทัณฑ์ กลุ่มควบคุม กลุ่มสวัสดิการ กลุ่มฝ่ายบริหาร เนื่องจากต่างกลุ่มต่างมีผลประโยชน์หากินกับผู้ต้องขังอย่างเหนียวแน่น
ทั้งทางตรงและทางอ้อม เลยไม่อยากให้อีกฝ่ายหนึ่งมารับรู้ ฟามลับ การหากิน เรื่องนี้
ก็จะกีดกัน จนท.ด้วยกัน ผู้ต้องขังก็สบายใจ ยา โทรศัพท์ก็สะดวก เฮฮฮ...
5.มีข่าวเรื่อง
โทรศัพท์ กับยาในเรือนจำตลอด ไม่เคยห่างหายจากเรือนจำ
เหมือนสูดกลิ่นตดที่ไม่มีวันจาง การเล่าเรื่องเก่าให้สดใหม่เสมอ เพื่อตอกย้ำ(ใส่ร้ายคนอื่นแบบเสมอต้นเสมอปลายชั่วนิรันดร์)
เปลี่ยน ผบ.แล้ว แม่ง... ก็พูดแต่เรื่องสมัย ผบ.คนก่อน คนก่อน คนก่อนโน้นน ...ว่ากรูเป็นอย่างนั้นอย่างนี้
ทั้งๆที่บางเรื่อง ผลสอบไม่มี หลักฐานไม่ปรากฏ มีแต่อ้างสายข่าว แล้วกรูจะเป็นคนดีกับเขาได้มั้ยเนี่ย
นี่เป็นข้อสังเกตอันเล็กน้อยจากประสบการณ์อันน้อยนิด ในการเข้าไปจัดการกับ
เรือนจำที่มีปัญหาด้านยาเสพติด และโทรศัพท์มือถือ แต่ผมไม่ใช่มือปราบนะ..
ผมเป็นแค่ผู้ส่งสาร ผู้รับฟัง นักคิดจินตนาการ นักมายากล นักแกะรอย 007
เชอร์ล้อกโฮล์มและคนบ้า ผสมกัน..555.. ผลงานมีอยู่ทั่ว ไปอยากรู้ไปหาเอง
เดี๋ยวจะว่าโม้ ...
เรือนจำใคร มีรูปแบบ หรือ รูปการ แบบที่ผมเขียนนี้ ...
ให้ท่านทำใจ เรือนจำท่านยังมีความเสี่ยงและคงอยู่ในเรื่องของการมียาเสพติด
และโทรศัพท์มือถือ ในเรือนจำ...
อันนี้ไม่ใช่งานทางวิชาการขอย้ำจะเอาไปอ้างอิงไม่ได้ ... ผมบอกแล้ว งานคุก
หลักสำคัญคือประสบการณ์ .. ถ้าคุณรู้จักเก็บเกี่ยวแล้วเอามาใช้คุณก็จะอยู่รอดในระบบผู้คุม
... ยังมีให้อ่านอีกมาก วันนี้แค่นี้ก่อน ...จะพยายามไม่ขี้เกียจ
หาอะไรเขียนให้ท่านอ่าน
เพื่อเติมสมองและผ่อนคลายจากงานประจำ..ก็หวังเช่นนั้นครับ...ไปแระ