คนราชทัณฑ์ กับ งานราชทัณฑ์
ที่ผ่านมาพอดีได้เจอเหตุการณ์บางอย่างเข้าโดยบังเอิญ ก็อยากจะเล่าให้ฟัง มันอาจสะท้อนอะไรได้บ้าง ประมาณว่า มีอยู่ 2 เหตุการณ์ เริ่มเลยแล้วกัน
เหตุการณ์แรก - ประมาณ สองอาทิตย์ที่ผ่านมา ช่วงที่กรมราชทัณฑ์รับสมัคร ชำนาญการพิเศษ วันนั้น นั่งทำงานอยู่โต๊ะคอมมุมห้อง กำลังนั่งคิดโครงการให้เรือนจำอยู่ เป็นช่วงกลางวัน ถัดไปอีกสองช่วงโต๊ะ น้องๆ ชำนาญการใหม่ สามคน ประมาณว่า เพิ่งติดมาไม่นานทั้งสามคน รุ่นบรรจุ ปี 44-45 อายุอานามก็ราวๆ 30-33 ปี นี่แหละ เขาคุยกันเราเผอิญได้ยิน ประมาณว่า
ชก.1 - สมัครชำนาญการพิเศษกันหรือยังผมส่งแล้วนะ
ชก.2 - ผมกำลังทำผลงานอยู่รอกันหน่อยซิ
ชก.3 - ช่วยผมทำหน่อย แต่เราเพิ่งเป็น ชก.สองปีเองมีสิทธิได้เหรอ
ชก.1 - เฮ้ย สายเราเขาให้มาโตมีตำแหน่งรออยู่แล้ว ปีนี้ไม่ได้ ปีหน้าก็ประเมินผลงานส่งกรมฯคัดเลือกใหม่ ตำแหน่ง ชำนาญการพิเศษ มีคนเกษียณ ทุกปีอยู่แล้ว
ชก.2 - โชคดีนะที่พวกเราอยู่สายนี้ (เขาพูดกันเหมือนเราไม่มีตัวตนนั่งอยู่ในห้องเลย อันนี้ เรื่องจริง)
ชก.3 - งานเป็นไงมั่งเห็น นายเร่งนโยบาย กับจังหวัดอยู่
ชก.1 - ก็ตามกระแสไปเรื่อยๆ นายว่าไงก็ว่างั้น ให้พี่... ที่เขาเก่งนโยบายทำไป เราก็ตามน้ำ ปีนี้ ได้ดีมากก็ถือว่ากำไรแล้ว
ชก.2 - หิวข้าวแล้ว ออกไปหาอะไรกินกันดีกว่า....
แล้ว ชก.ทั้งสามก็ออกไปหาอะไรกินก่อนออกจากห้องน้องคนนึงคงมองเห็นเรา แล้วทำเป็นชวนไปกินข้าว เราก็นึกในใจ ไอ้ห่า กูนึกว่ากูไม่มีตัวตนซะแล้ว...55555 จบเหตุการณ์ที่หนึ่ง...
เหตุการณ์ที่สอง - เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมานี่เอง เราเข้าเวรเรือนนอน ผลัด 1 หลังจากเก็บคนขึ้นขังเสร็จ เราก็มารอพวกกลับจากศาล ที่ห้องควบคุม เจอ ป๋า....(ไม่ออกชื่อแล้วกัน)ซึ่งเข้าเวรผลัด 2 ป๋าคนนี้ ประมาณว่า เหลืออีก 4 ปี จะเกษียณ แกนั่งทำหน้าเซ้งๆ เราเลยเข้าไปนั่งข้างๆ เลยได้คุยกันประมาณว่า
ป๋า - ไอ้น้อง ป๋า เก็บขังแล้ว วันนี้ รถข้าวสารเข้ามา ป๋าต้องไปตรวจรับอีก เขาให้เป็นกรรมการ เหนื่อยวะ
เรา - ก็ตามหน้าที่นะป๋า ต้องทำใจ
ป๋า - (ทำหน้าเหมือนมีอารมย์)ไอ้น้อง พวกชำนาญการมันทำอะไรมั่งวะ ทุกวันนี้มีแต่พวกเราชำนาญงานเท่านั้นที่ทำงานรับผิดชอบทุกอย่าง เวรต้องเข้าเวรผลัด เป็นคณะกรรมการภายในให้วุ่นไปหมด เดี๋ยวรถข้าวมา รถขนไม้เข้ามา ก็มีแต่พวกเรา ไปคอยระวังคอยตรวจคอยค้น มีความผิดเราโดนก่อน ความเสี่ยงตกอยู่กับพวกเราหมด พรุ่งนี้ออกเวร ป๋าต้องไปเฝ้าผู้ป่วยโรงบาลนอกอีก ลำบากชิกหาย
เรา - ป๋าใจเย็นๆ เรือนจำเราผู้คุมเด็กๆ ไม่ค่อยมีเรารุ่นใหญ่ก็รับภาระไปก็แล้วกัน
ป๋า - (จ้องหน้าเรา)ทำไมมันจะไม่มีผู้คุมเด็กๆ มันมีแต่มันเป็น ชำนาญการ กันหมด กูสอนงานมาทั้งนั้น พอติดบ่า เขาก็ตั้งมันเป็นหัวหน้างาน ไอ้.... ตอนนี้มันเป็น หน.ฝ่าย แล้วนะ ป๋าสอนงานมันแต่บรรจุ ทำงานได้แค่ใหน ป๋ารู้ แต่ แม่ง ผบ ชอบมัน เลยได้เป็น แต่ ป๋า ไม่เข้าใจว่ะ พวกนี้ ทำใมเขาไม่จัดเวรผลัดให้มันบ้าง พอติดบ่า ก็จัดมันเข้า ผู้ช่วยพัสดี เวรตรวจค้นพิเศษ เวรสูทกรรม เวรนอนทั้งนั้น มันมีระเบียบเหรอวะ กูไม่เข้าใจ ทำงานจนเหี่ยวแล้วแทนที่จะได้สบายบ้างต้องมานั่งเวรผลัดเป็นเพื่อนกัน เฮ้อออ...ป๋าคงไม่อยู่จนเกษียณ รอโครงการเออรี่ย์ ปีนี้ปีหน้า ถ้าได้ค่าตอบแทนดีๆ คงต้องไปแล้ว เอ็งอยู่ก็สู้ต่อไปนะ ไปละ ป๋าไปรับรถข้าวสารก่อน
ว่าแล้วแกก็เดินออกจากห้องไป.......เราก็เลยนั่งคิดทบทวนคำพูดป๋าแก เราก็เลยนั่งซึม ป๋ายังโชคดี ที่เหลือเวลาโดนกดขี่อีกไม่มาก แต่คนที่เหลืออายุงานเยอะๆ นี่ซิ ต้องทำไงวะ เหลืออายุงานอีก 18 ปี ภาค ก.กพ ก็ไม่มี ถึงมีจะไปสอบเปลี่ยนสาย ก็ต้องมานั่งเป็นรุ่นน้องไอ้พวกมาสายตรงอีกบาน ที่สำคัญไม่รู้จะสอบได้หรือเปล่า วิ่งก็ไม่ไหว ไขข้อกิน ....เฮ้อออ...สองเรื่องนี้สะท้อนอะไร ท่านผู้คุม หรือใครที่ได้อ่าน ก็ลองพิจารณาเอาเองนะครับ ว่ามันสะท้อนอะไรในความเป็นจริงของราชทัณฑ์วันนี้ ความเหลื่อมล้ำเรื่องความก้าวหน้า ความไม่เป็นธรรมในการทำงาน .... ขอบคุณที่ทนอ่านครับ ยินดีน้อมรับทุกคอมเม้นท์..อยากให้ผู้ใหญ่ในกรมฯผ่านมาอ่านบ้างจะได้มีข้อคิดดีๆ ในการพัฒนาบุคลากรในองค์กรราชทัณฑ์เรา....บาย
ที่ผ่านมาพอดีได้เจอเหตุการณ์บางอย่างเข้าโดยบังเอิญ ก็อยากจะเล่าให้ฟัง มันอาจสะท้อนอะไรได้บ้าง ประมาณว่า มีอยู่ 2 เหตุการณ์ เริ่มเลยแล้วกัน
เหตุการณ์แรก - ประมาณ สองอาทิตย์ที่ผ่านมา ช่วงที่กรมราชทัณฑ์รับสมัคร ชำนาญการพิเศษ วันนั้น นั่งทำงานอยู่โต๊ะคอมมุมห้อง กำลังนั่งคิดโครงการให้เรือนจำอยู่ เป็นช่วงกลางวัน ถัดไปอีกสองช่วงโต๊ะ น้องๆ ชำนาญการใหม่ สามคน ประมาณว่า เพิ่งติดมาไม่นานทั้งสามคน รุ่นบรรจุ ปี 44-45 อายุอานามก็ราวๆ 30-33 ปี นี่แหละ เขาคุยกันเราเผอิญได้ยิน ประมาณว่า
ชก.1 - สมัครชำนาญการพิเศษกันหรือยังผมส่งแล้วนะ
ชก.2 - ผมกำลังทำผลงานอยู่รอกันหน่อยซิ
ชก.3 - ช่วยผมทำหน่อย แต่เราเพิ่งเป็น ชก.สองปีเองมีสิทธิได้เหรอ
ชก.1 - เฮ้ย สายเราเขาให้มาโตมีตำแหน่งรออยู่แล้ว ปีนี้ไม่ได้ ปีหน้าก็ประเมินผลงานส่งกรมฯคัดเลือกใหม่ ตำแหน่ง ชำนาญการพิเศษ มีคนเกษียณ ทุกปีอยู่แล้ว
ชก.2 - โชคดีนะที่พวกเราอยู่สายนี้ (เขาพูดกันเหมือนเราไม่มีตัวตนนั่งอยู่ในห้องเลย อันนี้ เรื่องจริง)
ชก.3 - งานเป็นไงมั่งเห็น นายเร่งนโยบาย กับจังหวัดอยู่
ชก.1 - ก็ตามกระแสไปเรื่อยๆ นายว่าไงก็ว่างั้น ให้พี่... ที่เขาเก่งนโยบายทำไป เราก็ตามน้ำ ปีนี้ ได้ดีมากก็ถือว่ากำไรแล้ว
ชก.2 - หิวข้าวแล้ว ออกไปหาอะไรกินกันดีกว่า....
แล้ว ชก.ทั้งสามก็ออกไปหาอะไรกินก่อนออกจากห้องน้องคนนึงคงมองเห็นเรา แล้วทำเป็นชวนไปกินข้าว เราก็นึกในใจ ไอ้ห่า กูนึกว่ากูไม่มีตัวตนซะแล้ว...55555 จบเหตุการณ์ที่หนึ่ง...
เหตุการณ์ที่สอง - เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมานี่เอง เราเข้าเวรเรือนนอน ผลัด 1 หลังจากเก็บคนขึ้นขังเสร็จ เราก็มารอพวกกลับจากศาล ที่ห้องควบคุม เจอ ป๋า....(ไม่ออกชื่อแล้วกัน)ซึ่งเข้าเวรผลัด 2 ป๋าคนนี้ ประมาณว่า เหลืออีก 4 ปี จะเกษียณ แกนั่งทำหน้าเซ้งๆ เราเลยเข้าไปนั่งข้างๆ เลยได้คุยกันประมาณว่า
ป๋า - ไอ้น้อง ป๋า เก็บขังแล้ว วันนี้ รถข้าวสารเข้ามา ป๋าต้องไปตรวจรับอีก เขาให้เป็นกรรมการ เหนื่อยวะ
เรา - ก็ตามหน้าที่นะป๋า ต้องทำใจ
ป๋า - (ทำหน้าเหมือนมีอารมย์)ไอ้น้อง พวกชำนาญการมันทำอะไรมั่งวะ ทุกวันนี้มีแต่พวกเราชำนาญงานเท่านั้นที่ทำงานรับผิดชอบทุกอย่าง เวรต้องเข้าเวรผลัด เป็นคณะกรรมการภายในให้วุ่นไปหมด เดี๋ยวรถข้าวมา รถขนไม้เข้ามา ก็มีแต่พวกเรา ไปคอยระวังคอยตรวจคอยค้น มีความผิดเราโดนก่อน ความเสี่ยงตกอยู่กับพวกเราหมด พรุ่งนี้ออกเวร ป๋าต้องไปเฝ้าผู้ป่วยโรงบาลนอกอีก ลำบากชิกหาย
เรา - ป๋าใจเย็นๆ เรือนจำเราผู้คุมเด็กๆ ไม่ค่อยมีเรารุ่นใหญ่ก็รับภาระไปก็แล้วกัน
ป๋า - (จ้องหน้าเรา)ทำไมมันจะไม่มีผู้คุมเด็กๆ มันมีแต่มันเป็น ชำนาญการ กันหมด กูสอนงานมาทั้งนั้น พอติดบ่า เขาก็ตั้งมันเป็นหัวหน้างาน ไอ้.... ตอนนี้มันเป็น หน.ฝ่าย แล้วนะ ป๋าสอนงานมันแต่บรรจุ ทำงานได้แค่ใหน ป๋ารู้ แต่ แม่ง ผบ ชอบมัน เลยได้เป็น แต่ ป๋า ไม่เข้าใจว่ะ พวกนี้ ทำใมเขาไม่จัดเวรผลัดให้มันบ้าง พอติดบ่า ก็จัดมันเข้า ผู้ช่วยพัสดี เวรตรวจค้นพิเศษ เวรสูทกรรม เวรนอนทั้งนั้น มันมีระเบียบเหรอวะ กูไม่เข้าใจ ทำงานจนเหี่ยวแล้วแทนที่จะได้สบายบ้างต้องมานั่งเวรผลัดเป็นเพื่อนกัน เฮ้อออ...ป๋าคงไม่อยู่จนเกษียณ รอโครงการเออรี่ย์ ปีนี้ปีหน้า ถ้าได้ค่าตอบแทนดีๆ คงต้องไปแล้ว เอ็งอยู่ก็สู้ต่อไปนะ ไปละ ป๋าไปรับรถข้าวสารก่อน
ว่าแล้วแกก็เดินออกจากห้องไป.......เราก็เลยนั่งคิดทบทวนคำพูดป๋าแก เราก็เลยนั่งซึม ป๋ายังโชคดี ที่เหลือเวลาโดนกดขี่อีกไม่มาก แต่คนที่เหลืออายุงานเยอะๆ นี่ซิ ต้องทำไงวะ เหลืออายุงานอีก 18 ปี ภาค ก.กพ ก็ไม่มี ถึงมีจะไปสอบเปลี่ยนสาย ก็ต้องมานั่งเป็นรุ่นน้องไอ้พวกมาสายตรงอีกบาน ที่สำคัญไม่รู้จะสอบได้หรือเปล่า วิ่งก็ไม่ไหว ไขข้อกิน ....เฮ้อออ...สองเรื่องนี้สะท้อนอะไร ท่านผู้คุม หรือใครที่ได้อ่าน ก็ลองพิจารณาเอาเองนะครับ ว่ามันสะท้อนอะไรในความเป็นจริงของราชทัณฑ์วันนี้ ความเหลื่อมล้ำเรื่องความก้าวหน้า ความไม่เป็นธรรมในการทำงาน .... ขอบคุณที่ทนอ่านครับ ยินดีน้อมรับทุกคอมเม้นท์..อยากให้ผู้ใหญ่ในกรมฯผ่านมาอ่านบ้างจะได้มีข้อคิดดีๆ ในการพัฒนาบุคลากรในองค์กรราชทัณฑ์เรา....บาย
๑.บุคลากรแท่งวิชาการส่วนใหญ่จะเรียนสายสามัญมาแล้วต่อตรี กพ.บอกว่า แท่งวิชาการเพื่อปฏิบัติงานในหน้าที่ บุคลากรแท่งทั่วไปส่วนใหญ่จะเรียนสายอาชีพมา และทำงานก่อนจึงค่อยเรียนเพิ่มพัฒนาตนเองเรื่อยๆ กพ.บอกว่าเป็นตำแหน่งในฐานะผู้ปฏิบัติงานซึ่งเน้นการใช้ทักษะ ฝีมือ ในการปฏิบัติงาน
ตอบลบปฏิบัติงานในหน้าที่ กับ ผู้ปฏิบัติงานซึ่งเน้นการใช้ทักษะ ฝีมือในการปฏิบัติงาน ต่างกันตรงไหน? หรือต่างกันตรงที่ แท่งวิชาการส่วนใหญ่จะมีลูกท่าน หลานเธอ แท่งทั่วไปเป็นลูกผู้ใช้แรงงาน
๒. งานราชทัณฑ์เป็นงานที่ต้องปฏิบัติกับผู้ต้องขัง ไม่ใช่งานนั่งโต๊ะ ไม่ใช่งานสบาย หากราชทัณฑ์ยังคงตามกระแสระบบอุปถัมภ์ คนทำงานจริงๆ ไม่เลือกทำงานเฉพาะงานสบายมี % คนรักราชทัณฑ์จริงๆ จะรู้สึกแย่ หมดศรัทธากับผู้บริหาร
สุดท้าย อยากให้ดูตัวอย่างประเทศที่พัฒนาให้ความสำคัญกับบุคลากรที่มีทักษะ ฝีมือในการปฏิบัติงาน การพัฒนาประเทศถึงไปไว เพราะแรงงานมีกำลังใจในการสร้างผลงาน เห็นความเจริญก้าวหน้าในอาชีพ จึงพัฒนาอะไรใหม่ๆ อยู่ตลอด