วันเสาร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

คอมเม้นที่ดี ต้องมีการนำเสนอ ผู้คุมบางคนเริ่มตื่นตัวแล้ว แล้วคุณหล่ะ

คนราชทัณฑ์ กับ งานราชทัณฑ์
ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์ และคำถาม ตามกระทู้นี้ คลิ๊ก

หัวหน้าPhaiwal ครับ
ผม ผู้คุม "อาวุโส" นะ อาวุโสทั้งงานทั้งวัย ทั้งตำแหน่งปัจจุบัน เชื่อไหม ผมก็ทำของผมไปเรี่อย ไม่เห็นมีใครมากล้าตอแย เพราะตอนเป็น ซี 5 ผมก็เป็นหัวหน้าฝ่าย ตอนที่เขาเป็นชำนาญงาน ผมก็เป็นหัวหน้าฝ่าย พอเป็น " อาวุโส " เลยยังเป็นหัวหน้าฝ่ายเหมือนเดิม ติดนิดนึงตรงที่ว่า เขาให้เป็นผ้ช่วยพัศดีเวร ชำนาญการเป็นพัศดีเวร หัวหน้าหาข้อมูลช่วยหน่อยว่า ซี 6 ว. ปี 50 เป็นชำนาญการตามระบบแท่งใหม่ เมื่อ 51 กับผม อาวุโส 55 ใครอาวุโสกันแน่ ผมเถียงเขาในบอร์ด (เสียงข้างน้อย) สู้เขาไม่ได้ เท่าที่รู้ อาวุโส คือระดับ 7-8 เดิม ส่วน 6 หรือ 6 ว.เดิม เขา 6 หรือ 7 เดิม ถามเอาความรู้จริง ๆ เขาเรียงอาวุโสอย่างไร เอาเอกสารอ้างอิงด้วยก็ดี จะล้างหน้า บ-อ-ด ให้ตาใสให้ได้ ขอบคุณครับ
"อาวุโส55"

เรื่องลดช่อ ผมดำเนินการแล้ว ชำนาญการต่อต้านใหญ่ อยากลดก็ลดอาวุโสด้วย เพราะอาวุโส ต่ำกว่าชำนาญการ ผมไม่มีข้อมูลที่จะตอบโต้ ได้แต่นิ่ง เพราะในกรรมการบริหาร มีแต่น้องๆ ลูกหลาน ทั้งนั้นที่เป็นบอร์ด ขึ้นสายงานนี้เมื่อ ปี 51 ทั้งนั้น จาก ซี 6 และ 6 ว. ส่วนผม อาวุโส รุ่นสอบ 54 แต่งตั้ง 55 เขาหาว่า...เปรียบได้กับ จ-ป-ร (เจ็บไหม ) ดังนั้น จะทาบรัศมีจปร.ได้อย่างไร ? สรุปแล้วเขาไม่เห็นด้วย ทะเลาะกันพอสมควร เลยตัดสินใจ ไม่ส่งความเห็น เพราะผู้บริหาร เขาค่อนข้างเอนไปทาง ช่อ..ชำนาญการ ส่วนช่อ อาวุโส เฉย ๆ มีไม่มีไม่เห็นไปไร ข้า... อาวุโส หัวหน้าฝ่ายเหมือนเอง..... " อาวุโส 55"

ขอบคุณ คุณอาวุโส 55 ครับ ...... เป็นการส่งสารที่ดี และตรง ผมขอตอบในแบบสำนวนของผม ส่วนเอกสารต่างๆ ในกระทู้เก่าๆ ก็ค่อนข้างละเอียดครับลองกลับไปค้นดู แต่ไม่เป็นไร ผมจะเอามารีเม็กซ์ให้ดูกันใหม่...เอกสารเดี๋ยวผมขอเวลารวบรวม แล้วจะโพสต์ให้ไหม่..แต่ตอนนี้เอาเป็นว่า ...

ที่เขากดสายทั่วไป เพราะว่า.......
อาวุโส สามารถขึ้น อำนวยการระดับต้นได้เลย โดยไม่เกี่ยวกับ ป.ตรี  ตามหนังสือ ว กพ (กำลังค้นคว้าหามาให้ดู แต่ตามกระทู้เก่าๆ ก็มีนะ) หมายถึงสามารถประเมิน หรือคัดเลือก ตามที่ อกพ กำหนด แข่งขันกับ ชำนาญการพิเศษ ขึ้น อ.ต้น(ผบ/ผอ) ได้เลย
แต่....สายวิชาการ ต้องผ่าน ชำนาญการพิเศษก่อน นี่แหละคือเหตุผลใหญ่ที่เขากดเรา กรมฯ รู้อยู่แก่ใจ แต่ทำเป็นเงียบ เพราะ เขากลัว ว่า หากเปิดอาวุโส เมื่อไหร่ พวกที่จะได้เป็น ผบ ผอ คือสายทั่วไป

ง่ายๆ เลยครับ หากปล่อยให้มีอาวุโส จะทำใ้ห้ระบบการสรรหาผู้บริหาร(เฉพาะของกรมราชทัณฑ์) ที่จริงๆ แล้ว ผู้บริหาร(ผบ/ผอ)สามารถนำมาเลื่อนได้ทั้งสองสาย หมายถึง เลื่อนขึ้นได้ถึงตำแหน่ง ประเภท อำนวยการ ระดับ ต้น ครับ ซึ่ง.... สายทั่วไปจะเร็วกว่ามาก หากมา จากอาวุโส.....หากปล่อยให้มีตำแหน่งอาวุโสมากๆ พวกที่เข้าเกณฑ์จะได้เป็น ผบ/ผอ คือพวกเรานี่แหล่ะ รวมถึงท่าน อาวุโส 55 ด้วย เขากลัวตรงนี้จริงๆ ครับ พวก นิติกร กรมฯ และ พวกนักวิชาการ ที่อยู่ กจ กรมฯ รู้ดี ผมเคยบอกแล้วว่าหากการปรับเปลี่ยนใดที่คนกรมฯ ไม่ได้ประโยชน์ เขาจะไม่ดิ้นรนให้ คนที่อยู่กรมฯ ใครที่ได้อ่าน แล้วลองมาตอบผมดูหน่อยว่าจริงมั๊ย.... เขาปิด แม้กระทั่ง ผู้บริหาร โดยเฉพาะ อกพ.กรมฯ โดนพวกนี้ปิดหูปิดตาหมด อีกปัจจัยหนึ่งคือ พวก อกพ.กรมฯ ที่เป็น ชำนาญการพิเศษตอนนี้ คือพวกที่เป็น ซี 8 เดิม ซะส่วนใหญ่ ที่ถูกปัด(แบบมั่วๆ)มาเป็น ชำนาญการพิเศษ ต่างคนต่างก็หวังจะเป็น อ.ต้น(ผบ/ผอ) ทั้งนั้น  หากเปิดสาย อาวุโสขึ้นมา พวกนี้จะขึ้น อ.ต้น ไม่ง่าย เพราะ พวก อาวุโส ที่เป็น ซี 7 เดิม ที่ไม่มี ป.ตรี สามารถแข่งขันได้ ตามการเลื่อนใหลในสายงานที่ กพ กำหนด  ตาม พรบ.51(เดี๋ยวผมจะค้นเอกสารมาลงให้) หน่วยงานอื่น ตำแหน่ง อาวุโส เขาเรียก ท่าน นะครับ  ท่าน อาวุโส 55 คิดเอาเองแล้วกัน ว่าตำแหน่งท่านสูงกว่าชำนาญการ หรือเปล่า ตัวอย่างง่ายๆ ของกรมการปกครอง เจ้าพนักงานปกครอง อาวุโส กับ นักวิชาการปกครอง ชำนาญการพิเศษ เขาเรียก ป.อาวุโส เท่ากันนะครับ เขาเรียก ท่าน นะครับ เลื่อนขึ้น นายอำเภอ ได้ทั้งสองสายตำแหน่ง เพราะเขาไม่มี บ่า กำหนด..... กระทู้เก่าๆ ลองดูกระทู้นี้ก็ได้ครับ คลิ๊กเลย  แถมเอกสารตอน อกพ.กรมฯเรา ประกาศ รับสมัคร อ.ต้น ก็ชัดเจน ว่าอาวุโสไปได้ถึงใหน(ไม่เกี่ยวกับ ป ตรี เลย) โหลดไปศึกษาดู สำรอง LINK CLICK ไม่ต้องเชื่อผมนะ อ่านแล้ว ลองไปศึกษาค้นคว้าดูเพิ่มเติม...ปล.. พวกที่ มาจาก 6 ว.เขาสายตรง เขาได้เปรียบ พวก 6 ธรรมดา ที่ไม่ได้เริ่มจากสาย วิชาการ แต่โดนกรมฯ ต้ม โดยอ้าง ป.ตรี แล้วมาปัดเป็น ชำนาญการ พวกนี้ ไม่รู้ตัวเองว่า ไม่สามารถขึ้นชำนาญการพิเศษได้ เพราะการขึ้น ชำนาญการพิเศษ คุณต้องครองสายงานต่อเนื่องอย่างน้อย 8 ปี ไม่ใช่ครองวุฒิ ป ตรี อย่างที่หลายคนเข้าใจ ถึงจะขึ้น ชำนาญการพิเศษได้... ง่ายๆ พวก ป๋า ที่เป็น ซี 6 เดิม ที่มาจาก จบห.ราชทัณฑ์ ทั้งหลาย เขาบังคับให้มาเอามาเกษียณ ที่ ชำนาญการ ครับ อิอิ.... (สังเกตอีกนิด พวกที่ได้ ชำนาญการพิเศษ ตอนเดือนเมษายน ปีที่แล้ว ซี 7 เดิม ทั้งนั้นนะครับ และจะเป็นชำนาญการพิเศษรุ่นสุดท้ายของพวกที่ถูกปัดขึ้นชำนาญการที่เป็น ซี 7 เดิม...พวก ซี 6 ปัดชำนาญการ... หมดสิทธิ์ ต้องไปต่อคิว พวก สายตรง.... ตอนนี้ อกพ กรมก็กำหนดทิศทางการเลื่อนให้เอื้อ กับพวกสายตรงแล้วครับ..ท่านทั้งหลาย)ศึกษาให้มากๆ ครับ ข้อมูลอยู่ในเน็ตนี่แหละ...บาย  


วันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

มุมมองสะท้อนชีวิต ผู้คุม อ่านแล้วคิดกันเอาเอง

คนราชทัณฑ์ กับ งานราชทัณฑ์
ที่ผ่านมาพอดีได้เจอเหตุการณ์บางอย่างเข้าโดยบังเอิญ ก็อยากจะเล่าให้ฟัง มันอาจสะท้อนอะไรได้บ้าง ประมาณว่า มีอยู่ 2 เหตุการณ์ เริ่มเลยแล้วกัน
เหตุการณ์แรก - ประมาณ สองอาทิตย์ที่ผ่านมา ช่วงที่กรมราชทัณฑ์รับสมัคร ชำนาญการพิเศษ วันนั้น นั่งทำงานอยู่โต๊ะคอมมุมห้อง กำลังนั่งคิดโครงการให้เรือนจำอยู่ เป็นช่วงกลางวัน ถัดไปอีกสองช่วงโต๊ะ น้องๆ ชำนาญการใหม่ สามคน ประมาณว่า เพิ่งติดมาไม่นานทั้งสามคน รุ่นบรรจุ ปี 44-45 อายุอานามก็ราวๆ 30-33 ปี นี่แหละ เขาคุยกันเราเผอิญได้ยิน ประมาณว่า
ชก.1 - สมัครชำนาญการพิเศษกันหรือยังผมส่งแล้วนะ
ชก.2 - ผมกำลังทำผลงานอยู่รอกันหน่อยซิ
ชก.3 - ช่วยผมทำหน่อย แต่เราเพิ่งเป็น ชก.สองปีเองมีสิทธิได้เหรอ
ชก.1 - เฮ้ย สายเราเขาให้มาโตมีตำแหน่งรออยู่แล้ว ปีนี้ไม่ได้ ปีหน้าก็ประเมินผลงานส่งกรมฯคัดเลือกใหม่  ตำแหน่ง ชำนาญการพิเศษ มีคนเกษียณ ทุกปีอยู่แล้ว
ชก.2 - โชคดีนะที่พวกเราอยู่สายนี้ (เขาพูดกันเหมือนเราไม่มีตัวตนนั่งอยู่ในห้องเลย อันนี้ เรื่องจริง)
ชก.3 - งานเป็นไงมั่งเห็น นายเร่งนโยบาย กับจังหวัดอยู่
ชก.1 -  ก็ตามกระแสไปเรื่อยๆ นายว่าไงก็ว่างั้น ให้พี่... ที่เขาเก่งนโยบายทำไป เราก็ตามน้ำ ปีนี้ ได้ดีมากก็ถือว่ากำไรแล้ว
ชก.2 - หิวข้าวแล้ว ออกไปหาอะไรกินกันดีกว่า....
แล้ว ชก.ทั้งสามก็ออกไปหาอะไรกินก่อนออกจากห้องน้องคนนึงคงมองเห็นเรา แล้วทำเป็นชวนไปกินข้าว เราก็นึกในใจ ไอ้ห่า กูนึกว่ากูไม่มีตัวตนซะแล้ว...55555  จบเหตุการณ์ที่หนึ่ง...
เหตุการณ์ที่สอง - เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมานี่เอง เราเข้าเวรเรือนนอน ผลัด 1 หลังจากเก็บคนขึ้นขังเสร็จ เราก็มารอพวกกลับจากศาล ที่ห้องควบคุม เจอ ป๋า....(ไม่ออกชื่อแล้วกัน)ซึ่งเข้าเวรผลัด 2 ป๋าคนนี้ ประมาณว่า เหลืออีก 4 ปี จะเกษียณ แกนั่งทำหน้าเซ้งๆ เราเลยเข้าไปนั่งข้างๆ เลยได้คุยกันประมาณว่า
ป๋า - ไอ้น้อง ป๋า เก็บขังแล้ว วันนี้ รถข้าวสารเข้ามา ป๋าต้องไปตรวจรับอีก เขาให้เป็นกรรมการ เหนื่อยวะ
เรา - ก็ตามหน้าที่นะป๋า ต้องทำใจ
ป๋า - (ทำหน้าเหมือนมีอารมย์)ไอ้น้อง พวกชำนาญการมันทำอะไรมั่งวะ ทุกวันนี้มีแต่พวกเราชำนาญงานเท่านั้นที่ทำงานรับผิดชอบทุกอย่าง เวรต้องเข้าเวรผลัด เป็นคณะกรรมการภายในให้วุ่นไปหมด เดี๋ยวรถข้าวมา รถขนไม้เข้ามา ก็มีแต่พวกเรา ไปคอยระวังคอยตรวจคอยค้น มีความผิดเราโดนก่อน ความเสี่ยงตกอยู่กับพวกเราหมด พรุ่งนี้ออกเวร ป๋าต้องไปเฝ้าผู้ป่วยโรงบาลนอกอีก ลำบากชิกหาย
เรา - ป๋าใจเย็นๆ เรือนจำเราผู้คุมเด็กๆ ไม่ค่อยมีเรารุ่นใหญ่ก็รับภาระไปก็แล้วกัน
ป๋า -  (จ้องหน้าเรา)ทำไมมันจะไม่มีผู้คุมเด็กๆ มันมีแต่มันเป็น ชำนาญการ กันหมด กูสอนงานมาทั้งนั้น พอติดบ่า เขาก็ตั้งมันเป็นหัวหน้างาน ไอ้.... ตอนนี้มันเป็น หน.ฝ่าย แล้วนะ ป๋าสอนงานมันแต่บรรจุ ทำงานได้แค่ใหน ป๋ารู้ แต่ แม่ง ผบ ชอบมัน เลยได้เป็น แต่ ป๋า ไม่เข้าใจว่ะ พวกนี้ ทำใมเขาไม่จัดเวรผลัดให้มันบ้าง พอติดบ่า ก็จัดมันเข้า ผู้ช่วยพัสดี เวรตรวจค้นพิเศษ เวรสูทกรรม เวรนอนทั้งนั้น มันมีระเบียบเหรอวะ กูไม่เข้าใจ ทำงานจนเหี่ยวแล้วแทนที่จะได้สบายบ้างต้องมานั่งเวรผลัดเป็นเพื่อนกัน เฮ้อออ...ป๋าคงไม่อยู่จนเกษียณ รอโครงการเออรี่ย์ ปีนี้ปีหน้า ถ้าได้ค่าตอบแทนดีๆ คงต้องไปแล้ว เอ็งอยู่ก็สู้ต่อไปนะ ไปละ ป๋าไปรับรถข้าวสารก่อน
ว่าแล้วแกก็เดินออกจากห้องไป.......เราก็เลยนั่งคิดทบทวนคำพูดป๋าแก เราก็เลยนั่งซึม ป๋ายังโชคดี ที่เหลือเวลาโดนกดขี่อีกไม่มาก แต่คนที่เหลืออายุงานเยอะๆ นี่ซิ ต้องทำไงวะ เหลืออายุงานอีก 18 ปี ภาค ก.กพ ก็ไม่มี ถึงมีจะไปสอบเปลี่ยนสาย ก็ต้องมานั่งเป็นรุ่นน้องไอ้พวกมาสายตรงอีกบาน ที่สำคัญไม่รู้จะสอบได้หรือเปล่า วิ่งก็ไม่ไหว ไขข้อกิน ....เฮ้อออ...สองเรื่องนี้สะท้อนอะไร ท่านผู้คุม หรือใครที่ได้อ่าน ก็ลองพิจารณาเอาเองนะครับ ว่ามันสะท้อนอะไรในความเป็นจริงของราชทัณฑ์วันนี้ ความเหลื่อมล้ำเรื่องความก้าวหน้า ความไม่เป็นธรรมในการทำงาน .... ขอบคุณที่ทนอ่านครับ ยินดีน้อมรับทุกคอมเม้นท์..อยากให้ผู้ใหญ่ในกรมฯผ่านมาอ่านบ้างจะได้มีข้อคิดดีๆ ในการพัฒนาบุคลากรในองค์กรราชทัณฑ์เรา....บาย


  

วันจันทร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ทำไมต้องใส่ใจเรื่องบ่า

คนราชทัณฑ์ กับ งานราชทัณฑ์
จากสองกระทู้นี้ครับ กระทู้ 1 และ กระทู้ 2  ขอบคุณสำหรับ comment ขอขยายความนิดนึง ว่า ทำใมเราต้องสนใจเรื่องบ่า คนที่อยู่ในกรม และไม่ได้ แต่งเครื่องแบบทำงานทุกวัน และไม่ได้คลุกคลีกับผู้ต้องขังในเรือนจำ ย่อมไม่รู้สึกรู้สาอะไร แต่คนที่อยู่เรือนจำ เอาประเภทที่อยู่ตามเรือนจำจริงๆ นะครับ ผมว่าทุกท่านคงมองเห็นปัญหาในการทำงานตามเรือนจำแล้วหละ ผมกำลังจะบอกว่า การเอาบ่า มากำหนดระดับในการปฏิบัติกับพวกเรา มันทำให้เกิดการมองที่ไม่สมเหตุสมผล คือมันขัดแย้งกับความเป็นจริง Conflict Reason ปกติเมื่อคนในองค์กร ที่ทำงานมานานแล้วมีความสามารถ ทั้งคุณวุฒิวัยวุฒิ ผู้บริหารสามารถหยิบคนเหล่านี้มาใช้งานได้อย่างเหมาะสม เช่น สมัยเป็น ซี ซี 6 ซี 7 สามารถมานั่งเป็นหัวหน้าฝ่ายได้ เพราะ มันสมเหตุสมผลในการบริหาร ถึงคุณจะไม่ใช่ ซี 7 เป็นแค่ ซี 6 แต่คุณทำงานมานานมีประสบการณ์ และสามารถทำให้ข้าราชการโดยรวมในที่นั้นยอมรับได้ มันก็สามารถปกครองกันได้โดยไม่ตะขิดตะขวงใจ เพราะเรามี ซี 1 2 3 4 5 เป็นผู้ปฏิบัติอยู่แล้วซึ่งเพียงพอ ดังนั้น พอ ซี 7 เกษียณ พวก ซี 6 ก็ไปสอบแข่งกันเป็น ซี 7  พวก ซี 5 ก็มีความพยายามที่จะสอบ ซี 6 เพื่อหวังได้เป็น ผู้บริหารเล็กๆ ระดับฝ่ายได้มั่ง พวก ซี 3 ซี 4 ก็ไปสอบกัน ทำให้คนราชทัณฑ์ มีความตื่นตัวในเรื่องการศึกษาหาความรู้ และมีความเคารพพวกผู้อาวุโสกัน ปกครองกันได้อย่างพี่กับน้อง แต่ทุกวันนี้ คนที่เป็นนักวิชาการ ชำนาญการ แล้วได้บ่า ซี 7 ลึกๆ คุณภูมิใจมั๊ย OK คุณอาจจะภูมิใจ แต่เวลาทำงานกับพวกชำนาญงานรุ่น น้า รุ่น อา รุ่นพ่อ รุ่น ลุง คุณทำงานกับพวกเขาได้มั๊ย เอาง่าย กล้าสั่งเขามั๊ย พวกนี้ อายุงาน 15 - 30 ปี นะครับ แต่ท่านชำนาญการรุ่นใหม่ ทำงานแค่ 7-8 ปี บางคน คุณลุง คุณอา พวกนี้สอนงานกันมาทั้งนั้น เห็นตั้งแต่บรรจุ ยัน เป็นชำนาญการ  รู้นิสัยใจคอหมด รู้กระทั่งว่า การทำงานมีกึ๋นแค่ใหน คราวนี้มาพูดเรื่องการบริหารองค์กร Organizational management  การแต่งตั้งโดยผู้บริหาร คือ ผบ ผอ และบริหารบุคคล เวลาเขาแต่งตั้ง หน.งาน หน.ฝ่าย เขารู้เต็มทั้งรู้นะครับ ว่า เด็กคนนี้ เพิ่งติดชำนาญการ แต่จำเป็นต้องแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้างาน/หรือหัวหน้าฝ่ายไว้ก่อน เพราะ บ่ามันกำหนดสถานภาพคนไว้แล้ว จะเอาชำนาญงานที่ ต่อให้ แม่ง...โคตรเก่งกาจในการทำงานแค่ใหน มาเป็นหัวหน้าฝ่าย...ก็ไม่ได้ เพราะ...ขอย้ำอีกที บ่ามันกำหนดสถานภาพคนไว้เรียบร้อยแล้ว ดังนั้น เรือนจำ ทัณฑสถาน ตอนนี้ แบ่งกันกลายๆ เป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งคือ กลุ่มชำนาญการเก่าและใหม่ จะหารแบ่งกันในหน่วยงานในการทำงาน แม้แต่การเข้าเวรเสร็จ เช่นกลุ่มชำนาญการต้องเข้าเวรนอน เวรค่อนข้างสบายหน่อย เพราะเป็นระดับสัญญาบัตร กลุ่มชำนาญงาน ต้องเข้าเวรผลัด เพราะเป็นระดับที่เต็มที่แค่ Labor คือผู้ปฏิบัติทั้งปีทั้งชาติ  องค์กรโดยรวมไม่เกินปี สองปีนี้ มีปัญหาแน่ ผมย้ำเสมอ 1.การยอมรับนับถือกัน 2.การไม่ให้เกียรติกัน 3.ความเหลื่อมล้ำความก้าวหน้าไม่เป็นธรรม... 3 อย่างนี้มีในองค์กรใหน องค์กรนั้นบรรลัยแน่นอนครับ...แค่นี้ก่อนครับ