แด่เพื่อนพ้องน้องพี่ชาวราชทัณฑ์ และท่านผู้คุมทั้งหลาย ตามเรือนจำทัณฑสถาน และทั่วทุกมุมของประเทศไทย
วันพุธที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2553
ระบบแท่งใหม่แต่นิสัยเก่า นิสัยติดบ่า จนแยกไม่ออก
ตั้งแต่ วันที่ 11 ธันวาคม 2551 ข้าราชการพลเรือน ได้ถูกกำหนดตำแหน่งใหม่ จากระบบซี คือ ระดับ เดิม เป็นระบบแท่ง เรียก กลุ่มงาน ทำให้หลายหน่วยงานมีความสับสน และมีความสับสนมากจนถึงมากที่สุด ในบางหน่วยงาน ที่ผ่านมาตั้งแต่แต่งตั้งตำแหน่งใหม่ ตั้งแต่ ปี 51 จนถึงปัจจุบัน ปี 53 หน่วยงานที่เป็นข้าราชการพลเรือนแทบทุกหน่วยงาน ตำแหน่งเขาเริ่มลงตัวแล้ว ชัดเจน ทั้งในเรื่อง ความก้าวหน้า เรื่องการบังคับบัญชา ลู่การบริหารราชการภายใน แต่ที่น่าเป็นห่วงอยู่ คือของกรมราชทัณฑ์เราเอง หากเป็นข้าราชการพลเรือนอื่น เขาได้ถูกกำหนด ตามชั้น ตามตำแหน่ง ซึ่งมี 4 ชั้น ใช้หูกระทะ แต่ของราชทัณฑ์ เอาชั้นมาแปลงเป็นบ่าติดดาว เพื่อการบังคับบัญชา(อ้างว่า)ทำให้การทำงานมีปัญหา ซึ่งจากเดิมตั้งแต่การแต่งตั้งตามตำแหน่งใหม่ครั้งแรกกรมราชทัณฑ์ก็มีปัญหาแล้ว แต่ไม่ยักกะมีใครร้องเรียนเพื่อให้ชี้แจงข้อปัญหา และแก้ปัญหา ที่เห็นชัดเจนเลย คือ ก่อน 11 ธันวาคม 2551 กรมราชทัณฑ์ ได้มีการสอบขึ้นบัญชี ระดับ ซี 8 ซึ่งเป็นตำแหน่งเจ้าหน้าที่บริหารงานราชทัณฑ์ เป็นตำแหน่งทั่วไปว่างั้นเถอะ ตำแหน่งนี้ ทางลู่การบริหารของเรือนจำทัณฑสถาน เดิม คือ ผู้อำนวยการส่วนต่างๆ ผู้บัญชาการ ผู้อำนวยการต่างๆ คือเป็นตำแหน่ง หัวหน้าส่วนราชการ หรือเทียบเท่า ที่สำคัญ บัญชีนี้ ใช้วิธีการสอบโดยคุณสมบัติหลักเกณฑ์ตาม พรบ.ข้าราชการพลเรือน 2535 พอ กพ. สั่งให้ปรับตำแหน่งจาก ซี เป็นแท่ง อกพ กรมฯ ได้สั่งบรรจุพวกที่ขึ้นบัญชีนี้ เป็นซี 8 และปรับ ตำแหน่งเป็นชำนาญการพิเศษเฉยเลย ที่เด็ดสุด พวกที่เป็นบริหารราชทัณฑ์ 8 เดิม ก็ถูก กรมฯ เปลี่ยนเป็นชำนาญการพิเศษไปด้วย แต่แม่เจ้า ไม่น่าเชื่อ ไม่มี จบห 8 เดิม ร้องเลย เงิียบ นี่คือราชทัณฑ์ แถมในระหว่างปรับตำแหน่ง บางตำแหน่ง ควรจะรอ กพ.ออกฏในการประเมิน หรือแนวทางในการเลือนตำแหน่งเพื่อความก้าวหน้า กรมฯ กลับมีการปรับตำแหน่งอย่าง น่าอัศจรรย์ เช่น ตำแหน่ง นักทัณฑ์ เปลี่ยนเป็นนิติกร ฯลฯ ทุกวันนี้กลายเป็นว่า กรมฯ เอาตำแหน่งวิชาการ ขึ้น เป็นผู้บริหารทั้งหมด บริหาร ในที่นี้ ตามโครงสร้างบริหารงานของเรือนจำทัณฑสถาน มิใช่ชื่อบริหารตามกลุ่มตำแหน่ง เช่น ตำแหน่ง ผู้อำนวยการส่วนฯ ก็จับพวกชำนาญการพิเศษ ทั้งหมด เข้าไปสวม กลายเป็นว่า ตำแหน่งทางการบริหาร ภายใน เป็นสายวิชาการทั้งหมด แล้ว ป๋าแก่ๆ อย่างผมหละ เอาไว้ใหน นี่คือการหมกเม็ดและเป็นความเห็นแก่ตัวครั้งใหญ่ ของผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ ที่นั่งอยู่กรมฯ หากเราดูเจตนาการเทียบตำแหน่งตามปรัชญาเดิมที่ กพ. กำหนด ตำแหน่ง จบห.ราชทัณฑ์ ระดับ (ซี)7-8 เขาให้เอาไปเทียบตำแหน่งอาวุโส ในระบบแท่งใหม่ แต่กรมฯ กลับ กดตำแหน่ง อาวุโสเฉยเลย กดให้ บ่าตำแหน่ง อยู่ในระดับ วิชาการ ชำนาญการ ทั้งๆที่ อันนี้ขอให้ท่านที่อ่าน ไปดูเน้นๆ ทั้งๆที่ อัตราเงินเดือน ขั้นต่ำ และสูง ของตำแหน่งอาวุโส สูงกว่า ตำแหน่งสายวิชาการ ชำนาญการ แตกต่างกัน เกือบ หมื่น (ชำนาญการ เงินเดือนขั้นสูง 36,020 อาวุโส เงินเดือนขั้นสูง 47,450) นี่เป็นการบ่งบอกคุณค่าของตำแหน่งตามเจตนา ของ กพ.เดิม ตอนนี้ ตำแหน่งอาวุโส หาทางขึ้นไม่ได้เลย เป็น ผอ.ส่วน ได้มั๊ย เงียบ กรมฯ ไม่พูด ความก้าวหน้าเป็นอย่างไร เงียบ กรมฯ ก็ไม่พูดอีก ผมมานั่งคิด จากอาวุโส แล้ว ตู จะไปใหนต่อฟะ เหลืออายุงานอีกตั้ง 20 ปี เอาเป็นว่า ดู กรมฯ จะแก้ปัญหาอย่างไร สิทธิคงมีได้แค่นั่งวิจารณ์ในนี้ เรื่องนี้ยังมีอีกยาว ทั้งเรื่อง เอา ซี 7 เดิม มา ยำ รวมกับ ซี 6 แล้ว เตะเข้า ชำนาญการหมด ตามวุฒิ ป.ตรี ว่างั้น.. เดี๋ยวว่ากันต่อคราวหน้า ตอนนี้นายเรียก คงพอแค่นี้ก่อน ปล. ที่เขียนคือความเห็นส่วนตัวนะครับ ใครมีความเห็นที่หลากหลายกว่า หรือมีข้อท้วงติง เชิญเลยครับ เพื่อการพัฒนากรมราชทัณฑ์ เรา
วันอังคารที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2553
เล่าสู่กันฟัง โครงการคืนคนดีสู่สังคม
ตอนนี้ พวกเราชาวเรือนจำ ทัณฑสถานฯ คงกำลังปวดหัวอยู่กับ การจ้างผู้ต้องขัง พ้นโทษ ทำงาน ภายใต้โครงการ คืนคนดีสู่สังคม ของสำนักสังคมสงเคราะห์ โดยใช้งบประมาณ ไทยเข้มแข็ง เป็นงานต่อเนื่องที่มีความเร่งรีบ มากกว่าการปฏิบัติงานปกติ ต่อจากงานประเมินผลการปฏิบัติงาน เพื่อเลื่อนเงินเดือน ซึ่งปัจจุบัน ก็ยังไม่ลงตัว หลายเรื่อง ที่แสดงให้เห็นว่า วัฒนธรรมการทำงาน ของ กรมราชทัณฑ์ ในส่วนกลาง เหมือนการจุดประทัดวันตรุษจีน ยังไงยังงั้น บางเรื่อง เหมือนกับว่า แต่ละสำนักกองที่ตั้งอยู่ในกรมราชทัณฑ์(ที่เดียวกัน)แต่ต่างกันแค่คนละชั้นทำงาน หรือต่างกันแค่ฝากั้นห้อง ไม่คุยกันเลย ที่ผ่านมา เห็นชัดหลายเรื่อง แต่ที่จะเล่าให้ฟังคือเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสติดตามนายไป ฟังประชุมชี้แจงการดำเนินงานภายใต้โครงการ คืนคนดีสู่สังคม ที่โรงแรมริชมอนด์ จังหวัดนนทบุรี วันที่ 24 พฤษภาคม 2553 ก็มี ผบ ผอ เรือนจำ ทัณฑสถาน ไปเกือบทั่วประเทศ และผู้ปฏิบัติงานติดตามมาด้วย ถือว่าเป็นการประชุมชี้แจงใหญ่พอสมควรเลยทีเดียว แต่สิ่งที่ได้กลับมา จากการประชุมเป็นความสับสน และงุนงงในบางเรื่อง และหลายเรื่องเป็นการแสดงออกถึงความไม่เป็นมืออาชีพในการทำงาน เช่น การกำหนดกรอบการทำงาน และวิธีปฏิบัติตามหนังสือสั่งการของกรมฯ โดยสำนักสังคมสงเคราะห์ และการปฏิบัติเกี่ยวกับการเบิกจ่าย จากกองคลัง รวมถึงรายละเอียดในขั้นตอนการดำเนินงาน เรียกได้ว่า ไม่คุยกันมาก่อนเลย พอมาขึ้นเวทีบรรยาย กลายเป็นว่าถูกผู้เข้ารับฟังบรรยาย ต้อนเข้ามุมอับหลายครั้ง เอาเป็นว่า โครงการนี้ถึงมันจะยุ่งยาก แต่เขากำหนดไว้ว่าต้องทำให้ได้ เราก็ต้องทำ แต่สิ่งที่เป็นห่วง และสิ่งที่เป็นข้อสังเกตุ คือ การหลีกเลี่ยงระเบียบบางประการ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยดี ซึ่งการหลีกเลี่ยงบางอย่าง เป็นการเกี่ยวพันถึงรูปแบบการใช้จ่ายเงินงบประมาณ ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่า งบไทยเข้มแข็ง เป็นงบที่หลายฝ่ายจับตา และจ้องตรวจสอบ เรือนจำ ทัณฑสถานฯ เราต้องตั้งรับให้ดี ใครที่รับงานนี้ไปทำ ต้องรอบคอบ พอสมควร แต่ที่เป็นห่วงหนักๆ คือ การจัดสรรงบประมาณ จากกรมฯ โดยสำนักที่เกี่ยวข้องที่รับเงินตัวนี้ไป ตอนนี้ ยังไม่กระจายงบให้ เรือนจำทัณฑสถาน มีแต่ใช้วิธีโทรศัพท์สอบถามกันไปมา วันนี้ บอกว่า ได้ เงินเท่านี้ พรุ่งนี้ บอกว่า ได้อีกเท่านี้ สบสนไปหมด แถม การใช้จ่ายเงินในโครงการนี้ เขาก็มีระเบียบต่างหาก และมีมติ ครม กำกับไว้อีกชั้นหนึ่ง ว่า ต้องดำเนินการทุกโครงการ ให้เสร็จก่อนเดือน มิถุนายน แปลง่ายๆ คือเอกสารโครงการ การดำเนินงาน การรายงาน ทุกอย่างต้องเสร็จสิ้นภายในเดือน มิถุนายน53 และต้องเบิกจ่าย ให้แล้วเสร็จ ภายในเดือนสิงหาคม53 โอ้แม่เจ้า วิ่งตามกันมาแบบหายใจรดต้นคอ ผมก็เป็นผู้หนึ่งที่รับงานนี้ หนักใจครับ แต่มองแง่ดีไว้ก่อน คิดถึง คำนี้ นิยามของงานผู้คุม แล้วบรรลุเลยครับ "เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ปฏิบัติหน้าที่ ควบคุมผู้ต้องขัง และอื่นๆ" เอวัง
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)